บ้านไหนที่มีสมาชิกในบ้านอยู่รวมกันหลายคน การใช้รถก็ย่อมมีความจำเป็นแน่นอน และก็เป็นไปได้ที่ทุกคนจะต้องหมั่นคอยเตือนเรื่องการบำรุงรักษาหรือแจ้งเตือน เมื่อถึงเวลาที่จะต้องเข้ารับการตรวจเช็คสภาพรถที่ศูนย์บริการ แต่ถ้าหากเป็นครอบครัวเดี่ยวแล้ว การบำรุงรักษารถยนต์จะกลายเป็นความรับผิดชอบของเจ้าของรถแต่เพียงผู้เดียว ซึ่งในแต่ละครั้งอาจต้องใช้เวลานานและเสียเวลา
การดูแลรักษารถยนต์ด้วยตัวเอง
การดูแลรักษารถยนต์ด้วยตนเอง เป็นสิ่งที่ผู้ขับขี่ควรทำความคุ้นเคยกับการบำรุงรักษาเป็นประจำ และขั้นตอนพื้นฐานบางอย่างควรอยู่ในความรับผิดชอบเพื่อดูแลสภาพรถให้พร้อมใช้งานอยู่เสมอ มาดูกันว่า วิธีใดบ้างที่คุณสามารถดูแลรักษารถยนต์ได้ด้วยตัวเอง
1.กระจกหน้ารถควรสะอาดอยู่เสมอ
กระจกหน้ารถที่สกปรกและมีรอยแตก ย่อมเป็นอันตรายต่อการขับขี่รถยนต์อย่างมาก เนื่องจากทำให้ทัศนวิสัยในการขับขี่คลุมเครือ และบางครั้งการเดินทางในเวลากลางคืนกระจกหน้ารถอาจมีซากแมลงติดอยู่ หากมีปริมาณมากควรแวะจอดปั๊มน้ำมัน แล้วใช้น้ำยาล้างรถและผ้าเช็ดทำความสะอาดรถเพื่อขจัดคราบสกปรกเหล่านี้
2.ตรวจสอบแรงดันลมยาง
การรักษาแรงดันลมยางที่ถูกต้องจะช่วยให้ผู้ขับขี่เกิดปลอดภัยและช่วยให้ประหยัดเชื้อเพลิงได้ หากมีแรงดันลมยางที่มากเกินไปหรือมีแรงดันที่ไม่ถูกต้อง อาจเพิ่มโอกาสการระเบิด นอกจากนี้ยางที่มีแรงดันที่ถูกต้องจะมีอายุการใช้งานที่เพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ตาม แรงดันลมยางเป็นสิ่งที่ต้องจับตาดูอยู่เสมอ เพราะมีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างต่อเนื่องเมื่อยางร่อนและอุณหภูมิเปลี่ยนแปลง ซึ่งเป็นเหตุผลสำคัญที่ต้องตรวจสอบเป็นประจำและเพิ่มลมยางเมื่อจำเป็น โดยผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า ผู้ขับขี่รถยนต์ควรตรวจสอบลมยางทุกครั้งที่เติมน้ำมันก่อนที่จะกลายเป็นปัญหาใหญ่ โดยการตรวจสอบแรงดันลมยางที่ถูกวิธี ควรปฏิบัติดังนี้
- สำหรับการอ่านค่าแรงดันลมยางที่ถูกต้องนั้น ให้ตรวจสอบแรงดันยางเสมอเมื่อยาง “เย็น” หรือใกล้เคียงกับอุณหภูมิปกติ หากขับรถมาสักระยะหนึ่งให้ปล่อยยางไว้อย่างน้อย 4 ชั่วโมงก่อนที่จะตรวจสอบแรงดัน
- ค้นหาแรงดันลมยางที่เหมาะสมสำหรับรถที่ใช้งานซึ่งจะอยู่ในคู่มือการใช้งาน ควรเติมลมยางเสมอตามระดับที่แนะนำนี้ไม่ว่าจะเป็นยางยี่ห้อใด
- ตรวจเช็คแรงดันลมยางด้วยเครื่องวัดแรงดันลมยาง
- เติมลมเมื่อจำเป็น
3.ตรวจสอบระดับน้ำมันเครื่อง
น้ำมันเครื่องมีความสำคัญต่อสมรรถนะของรถ โดยมีหน้าที่ในการหล่อลื่นชิ้นส่วนที่เคลื่อนไหวทั้งหมดในเครื่องยนต์เพื่อไม่ทำให้เกิดการสึกหรอและฉีกขาด นอกจากนี้ยังถ่ายเทความร้อนออกจากปฏิกิริยาการเผาไหม้แล้วส่งไปยังตัวกรองน้ำมัน หากเครื่องยนต์ไม่มีน้ำมันหล่อลื่นที่เพียงพออาจทำให้รถมีความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุ และเพื่อให้แน่ใจว่ารถมีน้ำมันหล่อลื่นเพียงพอตลอดเวลา ผู้ขับขี่ต้องตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอ โดยปฏิบัติตามคู่มือการใช้งานของรถยนต์แต่ละรุ่น ซึ่งรถยนต์ส่วนใหญ่ได้รับการออกแบบเพื่อเปลี่ยนน้ำมันเครื่องทุก ๆ 1,000 ไมล์ (ประมาณ 1,600 กิโลเมตร) แต่รถบางคันอาจต้องเปลี่ยนน้ำมันเครื่องเร็วกว่านั้น เนื่องจากการรั่วไหล
การดูแลรักษารถยนต์ที่สามารถทำได้ง่ายที่สุดก็คือ ปฏิบัติตามตารางการบำรุงรักษาที่แนะนำในคู่มือการใช้รถยนต์ และโปรดจำไว้ว่ารถยนต์ต้องมีงานซ่อมบำรุงเพื่อให้มีสภาพที่พร้อมใช้งาน ตลอดจนมีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น ดังนั้น ก่อนที่รถคันโปรดจะเกิดการชำรุดเสียหาย หรือเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ ผู้ขับขี่ควรดูแลและบำรุงรักษา เพื่อให้รถมีประสิทธิภาพที่ดีตลอดอายุการใช้งานจะดีที่สุด